นโยบายและระเบียบการปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า หรือผู้มาติดต่องาน

 วัตถุประสงค์ : เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องาน หรือ บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้รับการเก็บ รักษาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และใช้งานโดยสุจริต และเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทในเครือ แฮนเดิล อินเตอร์ กรุ๊ป ได้แก่

บริษัท เอช.ไอ.ที. อินเตอร์คอน                             

บริษัท แฮนเดิล อินเตอร์ คอนโซลลิเดชั่น จักด

บริษัท แฮนเดิล อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส จำกัด             

บริษัท คอนโซล ลิงค์ จำกัด

บริษัท สยามไลน์ เนอร์ จำกัด                              

บริษัท พีเคที โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท แฮนเดิล อินเตอร์ โลจิสติกส์ จำกัด             

บริษัท อัลไพน์ ชิปปิ้ง (ไทยแลนด์)  จํากัด

บริษัท ออล ทูล อีควิปเม้ท์                                 

บริษัท อลล ซัพพลาย โซลูชั่น จํากัด

บริษัท สยาม แวร์เฮาท์ซิ่ง จํากัด                           

บริษัท พีเคที อี คอมเมิร์ซ (ประเทศไทย) จํากัด

บริษัท สปีดบอย จํากัด                                       

บริษัท แฮนเดิล ฟู้ดส์ จำกัด

บริษัท สยาม อินเตอร์ ฟรีโซน จำกัด                     

บริษัท ออล อินเตอร์ โกลบอล จำกัด

จึงกำหนดนโยบายและระเบียบปฎิบัติให้พนักงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้

 

  1. คำจำกัดความและขอบเขตของข้อมูล

1.1 ลูกค้า ( Customer ) หมายถึง บุคคลทั่วไปที่ซื้อสินค้า หรือ ใช้บริการของบริษัท

1.2 คู่ค้า ( Supplier ) หมายถึง บริษัท / ห้างร้าน / บุคคล ที่ซื้อ ขายสินค้า หรือ บริการให้กับบริษัท

1.3 ผู้มาติดต่องาน (Visitor) หมายถึง บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่องาน มาเยี่ยมชม หรือ มาตรวจสอบ

ใด ๆ กับบริษัทฯที่นอกเหนือจากการซื้อ – ขายสินค้าบริการ

1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องาน ที่ได้รับการคุ้มครองตามนโยบายนี้ คือ

1.4.1 ชื่อลูกค้า ชื่อกรรมการ หรือซื่อผู้ติดต่องานรายบุคคล

1.4.2 ที่อยู่ ทั้งที่เป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา

1.4.3 หมายเลชโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ นามบัตร

1.4.4 เลขที่บัตรประชาชน

1.4.5 รายการ และ ราคาสินค้าที่ซื้อ หรือ ขาย

1.4.6 แหล่งผลิต หรือ แหล่งส่งต่อ ของสินค้าหรือบริการ

1.4.7 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่กรรมการผู้จัดการกำหนด

  1. นโยบายการเก็บ รักษา ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้าหรือ ผู้มาติดต่องาน
  2. 1 บริษัทฯให้ความเคารพสิทธิส่วนบุคคลซองลูกค้า คู่ค่าและผู้มาติดต่องานอย่างสูงสุด

2.2  บริษัทฯจะขอข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นในการทำธุรกิจร่วมกัน หรือ ตามที่กฎหมาย หรือ ตามที่องค์กร

       หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกำหนดเท่านั้น

2.3  บริษัทฯ จะจัดให้มีการเก็บรักษาข้อมูลอย่างรัดกุม ปกปิด และเป็นความลับ

2.4 บริษัทฯ กำหนดหน้าที่ของผู้เก็บข้อมูล ผู้ประมวลผลข้อมูล ผู้รักษา ผู้ใช้ ผู้อนุมัติการใช้ รวมถึงขั้นตอนการ

      ตรวจสอบ การเข้าถึง อย่างซัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลเหล่านั้นได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับปลอดภัยและ

      ใช้งานโดยสุจริต

2.5 ลูกค้า คู่ค้า หรือผู้มาติดต่องานที่เป็นเจ้าของข้อมูล มีสิทธิในการขอดู ตรวจสอบ เข้าถึงข้อมูลนั้นได้ทันที        

      ตลอดเวลาที่มีการเก็บรักษา รวมถึงมีหน้าที่แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล

      หรือ นำส่งข้อมูลในกรณีที่บริษัทฯ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้องขอเพิ่มเติม

2.6 ลูกค้า คู่ค้า หรือ ผู้มาติดต่องาน ที่เป็นชาวต่างชาติ ให้เก็บรักษาและใช้ข้อมูลเช่นเดียวกับคนไทย

2.7 ในกรณีบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก หรือหน่วยงานราชการ ต้องการข้อมูลของลูกค้า คู่ค้า หรือ ผู้มาติดต่อ

     งาน ให้มีหมายศาลหรือหนังสือราชการที่เกี่ยวข้องมาแสดงต่อกรรมการผู้จัดการหรือผู้ควบคุมข้อมูลพิจารณา

     อนุมัติก่อนทุกครั้ง

2.8 การส่งข้อมูลของลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องานให้หน่วยราชการตามรอบปกติหรือตามที่กฎหมายกำหนดเช่น ส่งให้

      สรรพากร ให้ส่งเป็นความลับได้ตามปกติและบันทึกการส่งไว้เพื่อการตรวจสอบ

2.9 กรณีที่หน่วยราซการ หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจสอบระบบ

      คุณภาพ ให้แสดงเป็นความลับได้ตามปกติและบันทึกการตรวจสอบไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

2.10  การส่งข้อมูลของลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องานไปยังต่างประเทศให้กรรมการผู้จัดการเป็นผู้อนุมัติและดำเนินการ

         ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด

2.11 ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่บริษัทเก็บไว้ตามนโยบายนี้ ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญในทางธุรกิจ บริษัทฯจะเก็บรักษา

        เสมือนหนึ่งเป็นทรัพย์สิน ข้อมูลของบริษัทฯเอง ผู้ใดละเมิด ทำลาย ทำให้เสียหาย หรือนำไปใช้ประโยชน์

        ส่วนตัว บริษัทฯจะลงโทษถึงขั้นสูงสุดและหรือดำเนินคดีถึงที่สุด รวมถึงต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นเต็ม

        จำนวนตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

2.12  การเก็บ รักษา ใช้ การตรวจสอบ ทบทวน อนุมัติ หรือ ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตาม

นโยบายนี้ ให้ทำเป็นความลับ เท่าที่จำเป็น โดยหลักสุจริต และให้ถือข้อมูลลับส่วนบุคคลนี้เป็นข้อมูล

ลับในระดับสูงสุด

 

  1. ผู้ควบคุมข้อมูลและผู้เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้การเก็บรักษา การใช้ การควบคุม ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล เป็นไปตามโยบายและข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯจึงกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของพนักงานที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

3.1 กรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่ดังต่อไปนี้

3.1.1 จัดตั้งคณะทำงานควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้าหรือผู้มาติดต่องาน ประกอบด้วยผู้จัดการ/

หัวหน้าหน้าหน่วยงาน ทุกหน่วยงาน เพื่อกำหนดข้อมูลที่จะเก็บ การรักษา การใช้

การตรวจสอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นตามกฎหมาย

3.1.2 แต่งตั้งผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบบุคคล ผู้ใช้ช้อมูล ประมวลผล การรักษาข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเป็น

        ความลับและสอดคล้องกับกฎหมายที่กำหนด

3.1.3 เป็นผู้ทบทวน / อนุมัติการใช้ การควบคุมชัอมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกินจากอำนาจของผู้ควบคุม

ข้อมูลส่วนบุคคล หรือ การส่งข้อมูลพนักานไปให้หน่วยงานภายนอก หรือ ต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

3.2 ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศ ( IT Manager ) มีหน้าที่และรับผิดซอบดังต่อไปนี้

3.2.1 เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้าหรือผู้มาติดต่องานให้เป็นไปตามนโยบายนี้

และปฏิบัติตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

3.2.2 ร่วมกับคณะทำงาน ( ผู้จัดการทุกแผนกที่เกี่ยวข้อง) กำหนดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ดูค้าหรือผู้มาติดต่องาน วิธีการเก็บ การรักษา การใช้ การปรับปรุงข้อมูล โดยวิธีปกปิดเป็นความลับ

และทำกาวประชุมทบทวนความถูกต้อง การคงอยู่ของข้อมูล รวมถึงการทำลายข้อมูลที่ไม่ใช้งาน

อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันเป็นปัจจุบันและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

3.2.3 สถานที่เก็บเก็บรักษา ( ห้องเก็บเอกกสาร หรือ เก็บทางคอมพิวเตอร์ ) ต้องมั่นใจว่าเข้าถึงได้เฉพาะ

คน ต้องมีรหัสลับเฉพาะ มีการบันทึกการเข้าถึง เพื่อให้ตรวจสอบว่าใครเข้าไปทำอะไรวันใด เวลาใด

เพื่อป้องกันการละเมิด การลักขโมย การทำลายข้อมูลที่เก็บไว้นั้น

3.2.4 ข้อมูลที่เก็บไว้ หากจะเปลี่ยนแปลง ลบ หรือ นำออกไปภายนอก ต้องได้รับอนุมัติจากผู้ควบคุมจะนำ

      ออก ลบ เองโดยพลการไม่ได้

3.2.5 หากพบสิ่งผิดปกติ ไม่เป็นไปตามนโยบายนี้ให้ระงับ ยับยั้งเหตุผิดปกตินั้นทันทีและรายงานให้กรรมการ

         ผู้จัดการแก้ไข ป้องกันโดยเร็ว

3.2.6 จัดทำรายงานข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้าหรือผู้มาติดต่องานตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมรับการ

         ตรวจสอบและหรือส่งให้หน่วยงานที่กฎหมายกำหนด

3.2.7 บันทึกการใช้ข้อมูลไว้เพื่อการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าได้ดำเนินการตามนโยบายนี้

 

3.3 ผู้จัดการแต่ละหน่วยงาน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้

3.3.1 ผู้จัดการฝ่ายขาย ร่วมเป็นคณะทำงาน และรวบรวม ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

(Customer ) หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายขาย ส่งให้ผู้จัดการสารสนเทศเก็บรักษา

3.3.2 ผู้จัดการฝ่ายจัดชี้อ ร่วมเป็นคณะทำงานและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า ( Supplier)

หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายจัดซื้อ ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเก็บรักษา

3.3.3 ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน ร่วมเป็นคณะทำงาน และรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ใบแจ้งหนี้

ใบเสร็จรับเงิน เลขที่บัญชี รายรับ รายจ่าย การโอนเงิน เอกสารทางบัญชี หรือการเงินอื่นใดของ

ลูกค้า ผู้ค้า หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแผนกการเงินและบัญชี ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศ

เก็บรักษาหรือต่างคนต่างเก็บเอง

3.3.4 ผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้าและขนส่ง ร่วมเป็นคณะทำงานและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของ

บริษัทชนส่ง คนขับรถ ทะเบียนรถยนต์ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าและขนส่ง ส่งให้

ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเก็บรักษา

3.3.5 ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุง ร่วมเป็นคณะทำงานและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาช่อม สร้าง

ให้บริการในงานซ่อมบำรุง หรืว บุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานซ่อมบำรุง ส่งให้ผู้จัดการฝ่าย

สารสนเทศเก็บรักษา

3.3.6 ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ร่วมเป็นคณะทำงานและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาติดต่องาน

ผู้มาเยือน หรือ บุคคลที่เกี่ยวซ้องกับฝ่ายบุคคล ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเก็บรักษา

3.3,7 ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ร่วมเป็นคณะทำงานและควบคุม กำกับ ตรวจสอบ การทำ

หน้าที่ของพนักงานรักษาความปลอดภัยหน้าประตูเข้า – ออก บริษัท ให้บันทึกช้อมูล เก็บ รักษา

ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานรักษาความปลอดภัย ที่เข้า. -ออก บริเวณ

บริษัทให้รัดกุม ปลวดภัย เป็นความลับชั้นสูงสุด ให้ผู้จัดการสารสนเทศเก็บรักษา

3.3.8 ผู้จัดการฝ่ายคุณภาพ ร่วมเป็นคณะทำงานและรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ร้องเรียน หรือ

บุคคลที่เกี่ยวข้อกับระบบคุณภาพ ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเก็บรักษา

3.3.9 ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา ร่วมเป็นคณะทำงานและวบรวมช้อมูลส่วนบุคคลของผู้คิดค้นผู้วิจัย

ผู้ออกแบบ หรือ บุคคลที่เกี่ยวข้อกับการวิจัยและพัฒนา ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเก็บรักษา

3.3.10 ผู้จัดการอื่น หรือ หนักงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวบวมช้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า ผู้มา

 ติดต่องานในส่วนที่ตนเกี่ยวข้อง ส่งให้ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเก็บรักษา

 

  1. การใช้และการเปลี่ยนแปลงข้อมูล

เพื่อให้การเก็บ การใช้ การรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องาน เป็นไปตามนโยบาย

และหรือที่กฎหมายกำหนด ให้ผู้จัดการ พนักงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้

4.1 ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงนโยบายนี้ รวมถึงชี้แจงสิทธิและหน้าที่ของเจ้าของ

ข้อมูลตามนโยบายนี้

4.2 ให้ใช้ช้อมุลด้วยความสุจริต เป็นความลับ เท่าที่จำเป็น ตามงานที่เกี่ยวซ้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ตัดออก หรือ ต้องการข้อมูลอื่นใดเพิ่มเดิม ให้แจ้งผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศเพื่อจัดให้หรือปรับใหม่ให้เป็นปัจจุบัน ห้ามไม่ให้กระทำการใด ๆ เองโดยพลการหรือโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.3 ในกรณีที่พนักงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า คู่ค้า หรือผู้มาติดต่องานมีการเปลี่ยนตำแหน่ง เปลี่ยนคนหรือลาออก

ให้แจ้งเจ้าของข้อมูลทราบโดยเร็ว เพื่อป้องกันการแอบอ้าง หรือนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อป้องกันการเปิดเผย ละเมิดอันอาจจะทำให้เจ้าของซ้อมูลเสียหาย

4.4 บันทึกการใช้ การเก็บรักษาไว้เพื่อการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามนโยบายนี้หรือตามกฎหมาย

ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

 

  1. การเข้าถึง การตรวจสอบ และการแจ้งเพิ่มเติม ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

ลูกค้า คู่ค้า ผู้มาติดต่องานที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บ รักษาไว้ มีสิทธิและหน้าที่ ดังต่อไปนี้

5.1 มีสิทธิขอตรวจสอบการเก็บรักษา การใร้ข้อมูลของตนเองได้ทุกวันในเวลาทำงาน โดยแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้จัดการฝ่ายที่ติดต่องานด้วย เพื่อประสานงานกับผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศให้

5.2 มีสิทธิขอรับการรับรอง หรือ ขอใช้มูลส่วนบุคคลเฉพาะของตนเองเท่านั้น โดยแจ้งความประสงค์ต่อผู้จัดการฝ่ายที่ติดต่องาน เพื่อประสานงานกับผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศให้

5.3 มีหหน้าที่จัดส่งเอกสาร หรือ ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่บริษัทฯร้องขอกายในเวลาที่บริษัทฯกำหนด

5.4 มีหน้าที่แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนชื่อ นามสกุล เปลี่ยนหมายเลช

โทรศัพท์ เปลี่ยนบัญชีธนาคาร เปลี่ยนชื่อผู้ติดต่องาน การย้ายที่อยู่ ให้แจ้งบริษัทฯทราบโดยเร็วหรือ

ภายในเดือนที่มีการเปลี่ยนเปลงนั้น เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน

5.5 มีหน้าที่แจ้งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีนัยยะสำคัญ ที่มีผลต่อสุขภาพ ความปลอดภัยต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือ

ต่อความสงบเรียบร้อยในการค้าขายร่วมกัน เช่น อาการป่วยติดเชื้อ โรคระบาด โรคทางจิตเวช ยาเสพติด การก่อประวัติอาญากรรม หรือ การทำผิดกฎหมายใด ให้ผู้จัดการที่ติดต่องานด้วยทราบทันทีและเป็นความลับ เพื่อจัดการแก้ไข ป้องกัน ช่วยเหลือได้ทันเหตุการณ์

 

  1. บทลงโทษผู้ป่าฝืนระเบียบปฏิบัตินี้และหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า หรือ ของผู้มาติดต่องาน

6.1 พนักงานผู้ใดเปิดเผย ใช้ ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค่า หรือของผู้มาติดต่องาน โดยไม่ได้รับอนุมัติจากบริษัทฯ ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จงใจทำให้บริษัทเสียหาย ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงบริษัทฯจะลงโทษถึงขั้นเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยใด

6.2 พนักงานที่บริษัทฯมอบหมายให้มีหน้าที่เก็บ รักษา ใช้ ตรวจสอบซ้อมูล ถือเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่กระทำความผิดเสียเอง จะถูกพิจารณาลงโทษในอัตราสูงกว่าหนักงานทั่วไป

6.3 พนักงานผู้ใด ละเมิด ไม่ปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบปฏิบัตินี้หากเกิดความเสียหายใด ๆ พนักงานผู้นั้นต้องชดใช้ความเสียหายด้วยตนเองเต็มจำนวนตามที่กฎหมายกำหนด

6.4 พนักงานหรือบุคคลใด นำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้าหรือผู้มาติดต่องาน ที่บริษัทเก็บ รักษาไว้นี้ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว หรือ ให้ผู้อื่นไปใช้ต่อโดยไม่ได้รับอนุมัติจากบริษัทฯ ถือว่าเป็นการกระทำความผิดร้ายแรงมีโทษถึงชั้นเลิกจ้างทันทีโดยไม่จ่ายค่าซดเชยใด ๆ อีกทั้งบริษัทฯจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและหรือ ดำเนินคดีถึงที่สุดตามกฎหมายที่เกี่ยวช้อง

บริษัทฯ จึงขอให้พนักงานทุกคนศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติข้างต้นนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า หรือ ของผู้มาติดต่องานมีการเก็บ รักษา ใช้อย่างปลอดภัยตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกันตลอดไป

 

                                                                                                 ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565